พระสมเด็จหลังเสือเผ่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์
ลพ.ทองอยู่เป็นพระเถระยุคเก่าที่แก่กล้าด้วยอาคม ท่านเกิดในตระกูลสิงหเสนี อุปสมบทเมื่ออายุประมาณ 30ปี ที่วัดใหม่หนองพะองค์ ครั้นพอพรรษาแรกจิตใจรู้สึกสงบและทราบซึ้งในรสพระธรรมจึงได้อุปสมบทตลอดเรื่อยมา สมัยเมื่ออยู่ในวัยฉกรรจ์ ได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร กว่า 30ปี ไปในที่ธุรกันดารต่างๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือเก่งทางด้านปฏิบัติธรรมก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ โดยหลวงพ่อทองอยู่นี้ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มอยู่ ท่านจะเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่ภาคเหนือเป็นประจำทุกปี ซึ่งหลวงพ่อท่านก็มีโอกาสได้กราบนมัสการท่านพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างใกล้ชิดด้วย อีกทั้งยังเป็นศิษย์ในกรรมฐานของครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยชักชวน ลพ.ทองอยู่ ให้อยู่กับท่านด้วยกัน แต่ ลพ.ทองอยู่ ยังติดภาระที่ต้องดูแลทางวัดอยู่จึงเดินทางกลับมา ซึ่งครูบาศรีวิชัย ท่านจะถวายปัจจัยสำหรับค่าเดินทางกลับให้อยู่เสมอมิได้ขาดซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง ลพ.ทองอยู่ได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าฯว่า ปฏิบัติอย่างไรจึงมีเมตตามีบารมีและมีคนนับถือมากมายขนาดนี้ ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ตอบแก่ ลพ.ทองอยู่ อย่างเมตตาว่า”พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้แหละ ที่เฮาภาวนาเสมอ มิได้ขาด”และ ลพ.ทองอยู่ ได้เคยกล่าวถึงท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า”ครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านมีญาณสูงมาก ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีผู้ตั้งอธิกรณ์ฟ้องท่านว่าเป็นผีบุญ เพราะไปไหน ก็มีคนติดตามไปเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็เดินไปเหนือยอดหญ้า ฝนตกจีวรก็ไม่เปียกทั้งๆที่เดินฝ่าฝนไป แต่สุดท้าย ผู้ที่กล่าวหาท่าน ก็ถูกบาปกรรมตามสนองอย่างน่าสยดสยองที่สุด”ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทองหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆในสมัยก่อน โดยท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกันคือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์)ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่านที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่นหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา,หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม,หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี,หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ