Foldable Phone กับกลยุทธ์การตลาดใหม่ของ Samsung และ Huawei (มือถือหน้าจอพับได้)

29 เม.ย. 2562 เวลา 04:00 น.มือถือหน้าจอพับได้Foldable PhoneHuawei Mate XSamsung Galaxy FoldiPhone XsiPhone Xกลยุทธ์การตลาดใหม่SamsungHuaweiApple
แชร์บทความ แชร์ผ่าน Facebookแชร์ผ่าน Twitterแชร์ผ่าน LINE
Foldable Phone กับกลยุทธ์การตลาดใหม่ของ Samsung และ Huawei (มือถือหน้าจอพับได้)

นับเป็นเรื่องของการตลาดที่น่าสนใจเมื่อ Samsung และ Huawei ได้ตามรอยกลยุทธ์ในการอัพราคาสินค้าของ Apple โดยที่ตั้งราคาสินค้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวกับสินค้ารุ่นใหม่ ถือได้ว่า Apple เป็นผู้นำเทรนด์แผนการตลาดดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ปี 2017 ที่มีการปล่อย iPhone X และตามมาด้วยรุ่นล่าสุด Xs , XMax ที่เปิดตัวด้วยราคาที่สูงถึง 40,000 บาท ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Samsung และ Huawei ก็ได้มีการเปิดตัว Foldable phone ที่ราคาสูงเป็น 2 เท่ากว่าของมือถือรุ่นอื่น โดยมีราคาสูงถึง 60,000 - 80,000 บาท นับได้ว่าเป็นมือถือหน้าจอพับได้ ที่มีราคาสูงที่สุด หากไม่นับรวมมือถือที่มีการตกแต่งด้วย จิวเวอรี่อย่าง Vertu

 

รูปประกอบบทความ

 

ทั้งนี้คู่แข่งของ Apple ได้เลือกใช้กลยุทธ์การตลาดดังกล่าวเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายที่ซบเซาให้กลับมาดียิ่งขึ้น แม้ว่าราคาสินค้าบางรุ่นจะสูงกว่าราคา Laptop และ Computer เสียอีก แต่ดูเหมือนว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ จะทำให้ทาง Apple ได้รับผลกระทบอยู่เหมือนกันเนื่องจากรายงานแสดงรายรับของ Apple ในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงถึง 15%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับแนวโน้มความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้นกับ Samsung และ Huawei นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าฟังค์ชั่นและคุณสมบัติของ Folding phone ว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองสำหรับ Smartphone หรือจะเป็นแค่กระแสเพียงชั่วขณะที่ผ่านมาและผ่านไป 

นอกจากนี้ ไบรอัน มา (VP of devices research at IDC) ยังพูดถึง Sumsung galaxy folding phone ว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นในราคาที่สูงนี้ แต่ก็อย่าลืมว่าก่อนที่ราคา laptop จะลงมาอยู่ในจุดที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ ก็เคยมีราคาที่สูงถึง 80,000 บาทมาก่อน ทางด้าน Huawei  นาย ริชาร์ด ยู CEO of Huawei’s consumer group ยังพูดถึงรุ่น Mate X ว่าเป็นมือถือรุ่นที่มีราคสูงมากเลยทีเดียว
สำหรับ Sumsung เองก็ได้มีการปรับราคารุ่น S10 และรุ่น S10+ โดยราคาเพิ่มจาก 3 หมื่นกว่าบาทเป็น 4 หมื่นบาทเพื่อรองรับการใช้งาน 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้กลยุทธ์การกำหนดราคากำหนดราคาของ Apple ในช่วงแรกดูเหมือนจะได้ผลตอบรับที่ดีจากการเปิดตัว iPhone X แต่การขายก็มีการหยุดชะงักในช่วงปี 2018โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนที่มีคู่แข่งเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยีที่คล้ายกันแต่มีราคาที่ถูกกว่าเกือบเท่าตัว ทางด้าน เจฟฟ์ วิลเลียมส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ได้กล่าวว่า "ทาง Apple ได้ตระหนักและมีความกังวลเรื่องราคาของสินค้าอยู่ตลอด แต่เราไม่ได้ต้องการที่จะเป็น บริษัทชั้นนำ เราต้องการเป็น บริษัทที่คุ้มทุน ซึ่งตอนนี้ Apple ก็มีงานที่กำลังพัฒนาจำนวนมากเพื่อให้เกิดขึ้นในตลาดต่อไป"

 

อ้างอิงจาก bloomberg.com

บทความที่คุณอาจสนใจ

ระบบพูดคุย

คุณสามารถพูดคุยกับคนขายหรือผู้สนใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายๆที่นี่ ให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ

เข้าสู่ระบบก่อนเริ่มต้นใช้งาน

เข้าสู่ระบบ